วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก

                                        วันที่  4 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย

วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก



                                 จัดทำโดย

1. นางสาวจารุวรรณ    หนองกุ่ม                      เลขที่   3

2. นางสาวณัฐชา         ทองมณโฑ                   เลขที่   8

3. นางสาวชยาภา        จำรัสไพโรจน์วัฒนา     เลขที่  10

4. นางสาวนันทิชา       หมื่นสกดดี                  เลขที่  11

5. นางสาววงศพัทธ์    คำมีมา                         เลขที่  14

6. นางสาวนฤมล         ล้วนแก้ว                      เลขที่ 25

7. นางสาวอรสา           รักษี                            เลขที่  27

                                   เสนอ

         อาจารย์ณรงศักดิ์        พิทักษ์ตันสกุล

วิชาชีวิตกับสิ่งแวดล้อมรหัสวิชา2500104

ภาคเรียนที่   2    ปีการศึกษา  2553

คณะวิทยาการจัดการ สาขาการบัญชีการเงิน (531240502)

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี


ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก

        ข้าฯว่าจะจินตนาการเรื่องการข้ามผ่านระบบเลขฐานสองที่เคยเขียนหัวข้อไว้ในงานเขียนของกระบี่ดาวแดงไว้แต่ยังไม่ได้อธิบายถึงจินตนาการว่าจะเป็นแบบไหนแต่พอดีอ่านพบบทความท่าน ศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญญาแก้ว คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯที่นำมาลงในตอนที่แล้ว  ท่านยังได้คิดต่อในเรื่องควอนตัมดอทโซล่าเซลล์ ต่ออีก….เลยขอวกมาเรื่องสังคมมั่ง เอาไว้จบเรื่องนี้ที่ค้างอยู่แล้วข้าฯจึงจะวกกลับมากล่าวถึง เรื่องการก้าวข้ามระบบเลขฐานสองต่อ ที่ผ่านมาเรามักจะเคยชิน กับ คำว่าจีดีพี ( Gross Domestic Product) ไม่ว่าผ่านมา20-30ปีหรือรัฐบาลไหนๆก็ตาม(ที่ปัจุบันนักวิชาการที่นำเสนอเขาตั้งชื่อใหม่เป็นระบอบทักษิโนมิกส์)….รวมไปถึงการสร้างแบบจำลองทางเศรษฐกิจ ด้วยหลักการเศรษฐมิติ มักจะใช้ปรัชญานี้เป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้นๆ  ด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติของบรรดาเทคโนแครต…  ก็ต่อยอดกันมาเรื่อยๆ จีดีพี หรือผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ   ก็จะใช้สูตรการตั้งสมติฐานกับตัวเลขที่ตั้งเป้าหมายไว้เป็นค่าบวกหรือจะต้องมีเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาด้วยสูตร
        GDP = C+I+G+ ( X-M)
         C= การบริโภค, I = การลงทุน,G = การใช้จ่ายภาครัฐ, X = ผลสุทธิการส่งออก และM= การนำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อ X-M ก็จึงเท่ากับผลสุทธิการนำเข้าส่งออก
         ปัจจุบัน เริ่มมีคำที่ฮิตใหม่คือ GHP ( Gross Happiness Product) หรือผลผลิตมวลรวมแห่งความสุข
         ในความเป็นจริงของโลกปัจจุบัน….ไม่มีประเทศไหนหน้าโง่ที่จะให้ประเทศไทยเอารัดเอาเปรียบประเทศเขาการเจรจาในทุกเรื่องราวต่างล้วนมีวัตถุประสงค์แอบแฝงในเศรษฐกิจการเมืองของทุกประเทศ….
         แนวนโยบายที่เป็นรูปธรรมของปรัชญาเศรษฐศาสตร์แบบ GHP ที่เป็นรูปธรรมปัจจุบันก็ยังไม่เห็นมีนักวิชาการเทคโนแครตผู้ใดนำเสนอออกมาในสิ่งที่ปฏิบัติเป็นจริงได้….จึงเป็นเพียงนามธรรม อุดมคติเป็นหลัก
         มีเพียงรูปธรรมที่เห็นๆคือ แรงงานภาครากหญ้า และนอกภาคเกษตร กว่า20ล้านคนก็ยังจนอยู่เช่นเดิมอาจจะมีคำถามว่าเขามีความสุขไหมข้าฯคิดว่าคงมีความสุขน้อยกว่าบรรดาท่านเทคโนแครตทั้งหลายแหละครับเพราะต้องดิ้นรนกู้หนี้ยืมสิน กันแทบทั้งนั้นเพื่อความสุขเล็กๆน้อยๆตามอัตภาพ
และไม่โอ่อ่ากับเงินเดือนละแสนกว่าบาทของท่านผู้ทรงเกียรติที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งหลายที่มาบริหารประเทศ มีหลายคำถามที่ข้าฯยังสงสัย ในรูปธรรม กล่าวคือ อะไรคือสิ่งที่ท่านเรียกว่าระบอบทักษิโนมิกส์ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า  ที่ประเทศล้มละลายและการวางรากฐานในการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชน….และอีกประเด็นอะไรคือความพอเพียง โดยไม่ต้องใช้ทุนที่ข้าฯกล่าวเช่นนี้มิได้หมายความว่าข้าฯคัดค้านแนวคิดปรัชญาความพอเพียงที่เป็นอัจฉริยภาพของในหลวงที่พระองค์ท่าน กล่าวแนะนำแนวทางมาตั้งแต่ยุครัฐบาลชวน 2 หลังการล้มละลายของประเทศ..
         ที่ข้าฯเห็นก็คือถ้าใครสามารถทำตามทฤษฎีใหม่ก็ควรทำ ……แต่โดยทั่วไปชาวนาชาวไร่ จำนวนมากจะสร้างบ้านอยู่เป็นชุมชน และจะมีบริเวณที่ราบลุ่มเป็นแปลงนาที่อยู่นอกชุมชนที่เป็นหมู่บ้านการทำตามทฤษฎีใหม่ก็ต้องใช้ทุน เช่นการขุดสระน้ำ..และต้องย้ายบ้านเรือนไปทำการผลิตผลผลิตต่างๆที่ต้องดูแลใกล้ชิดทั้งหมดก็ต้องใช้ทุนทำทั้งนั้น( ความหมายคำว่าทุน ดูในระบอบทุนนิยมสังคม คลิกลิงค์ที่กระบี่ดาวแดง) และเช่นกันในแนวนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ก็อย่างที่ข้าฯได้กล่าวมาว่าไม่มีประเทศไหนหน้าโง่ให้ไทยเราเอาเปรียบเขาได้ยังมีจุดอ่อนหลายประการ ในปรัชญาที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัด ในแบบGDP กล่าวคือ
1. ภายใต้การกำหนดเป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยตัวเลขจีดีพี ที่จะต้องเป็นค่าบวกตลอดรวมไปถึงการผลักดันตลาดหุ้นนั้น มีผลต่อความสุขของประชาชนทั่วไป หรือไม่
2. GDP คิดจากเงินในกระเป๋าใคร ซื้อความสุขให้กับคนส่วนใหญ่ได้หรือไม่
3. เมื่อตัวเลขเป้าหมายจะต้องตั้งไว้ให้ขยายตัวอยู่ตลอดเวลาหรือค่าบวก  สิ่งที่ตามมาก็คือการกู้เงินเพื่อทำตามเป้าหมาย กลุ่มไหนเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์
4. การเร่งและกระตุ้นการนำใช้ทรัพยากรธรรมชาติของกลุ่มทุน  บนรากฐานการแสวงหากำไรสูงสุดอันเป็นผลต่อการลดทอนต้นทุนค่าใช้จ่ายสาธารณะในการทำลายสภาพแวดล้อม
5. การกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของประชาชนในประเทศ เป็นผลให้ก่อเกิดค่านิยมแห่งการบริโภคนิยม และวัฒนธรรมที่ไม่รู้จักเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีอำนาจทั้งหลาย..
6. ภายใต้วัฒนธรรมการคอรัปชั่น ของผู้มีอำนาจควบคุมกลไกรัฐทุกระดับสืบทอดกันมายาวนานของระบอบพันธมิตรนายพล-นายทุนและเทคโนแครต  ก่อเกิดการสูญเสียประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนพึงได้รับรวมไปถึงความมีเสรีของประชาชน….( เช่นการเกิดหนี้หรือการขาดโอกาส  การขาดเงินทุน เป็นต้นล้วนแล้วเป็นการขาดเสรี อันเป็นผลที่ไม่สามารถเกิดดุลยภาพได้ และไร้ซึ่งความสุขที่มนุษย์พึงมีในขั้นพื้นฐาน)
อะไรเกี่ยวกับความสุขมวลรวมประชาชาติ
When Jigme Singye Wangchuck was crowned king of the Himalayan nation of Bhutan in 1972, he declared he was more concerned with “Gross National Happiness” than with Gross Domestic Product. เมื่อ Jigme Singye Wangchuck ได้ครองตำแหน่งพระมหากษัตริย์ของประเทศหิมาลัยของประเทศภูฏานในปี 1972 เขาประกาศว่าเขาเป็นกังวลมากขึ้นกับ"ความสุขมวลรวมประชาชาติ"กว่ากับมวลรวมภายในประเทศสินค้า This probably didn't come as a surprise to the forest-laden country's 810,000 to 2.2 million (estimates vary greatly) residents, most of whom are poor subsistence farmers. นี้อาจไม่ได้มาเป็นแปลกใจไปยังประเทศที่มีภาระหนักของป่า - 810000 ไป 2.2 ล้านบาท (ประมาณการแตกต่างกันมาก) ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของผู้เป็นเกษตรกรที่ยากจนยังชีพ Bhutan's GDP is a mere $2.7 billion, but Wangchuck still maintains that economic growth does not necessarily lead to contentment, and instead focuses on the four pillars of GNH: economic self-reliance, a pristine environment, the preservation and promotion of Bhutan's culture, and good governance in the form of a democracy. ภูฏานของ GDP เป็นเพียง $ 2700000000, แต่ Wangchuck ยังคงรักษาที่เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องนำไปสู่ความพึงพอใจและแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่สี่เสาหลักของ GNH : เศรษฐกิจพึ่งตนเองสภาพแวดล้อมที่เก่าแก่, การรักษาและเสริมสร้างวัฒนธรรมภูฏานของและ การกำกับดูแลที่ดีในรูปแบบของระบอบประชาธิปไตย
King Wangchuck's idea that public policy should be more closely tied to wellbeing — how people feel about their lives — is catching on. ความคิดของพระ Wangchuck ว่านโยบายสาธารณะควรจะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดเพื่อสุขภาพที่ดี -- วิธีการที่บุคคลรู้สึกเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา -- เป็นจับบน “There is a growing interest in some policymaking circles in looking at these measures,” says Richard Easterlin, economics professor at the University of Southern California. "มีความสนใจที่เพิ่มขึ้นในบางวงการ policymaking ในการดูที่มาตรการเหล่านี้"ริชาร์ด Easterlin, ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ University of Southern California says “We have been misguided in dismissing what people say about how happy they are and simply assuming that if they are consuming more apples and buying more cars they are better off.” There are efforts to devise a new economic index that would measure wellbeing gauged by things like satisfaction with personal relationships, employment, and meaning and purpose in life, as well as, for example, the extent new drugs and technology improve standards of living. "เราได้รับการเข้าใจผิดในยกสิ่งที่ผู้คนพูดเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาจะมีความสุขและก็สมมติว่าหากพวกเขาเป็นแอปเปิ้ลมากขึ้นการบริโภคและการซื้อรถยนต์มากขึ้นพวกเขาจะดีกว่า". มีความพยายามในการออกแบบดัชนีเศรษฐกิจใหม่ที่จะวัดคุณภาพชีวิตโดยมี gauged สิ่งที่ต้องการความพึงพอใจกับความสัมพันธ์ส่วนตัวการจ้างงานและความหมายและจุดมุ่งหมายในชีวิตรวมทั้งตัวอย่างเช่นยาเสพติดใหม่ขอบเขตและเทคโนโลยีปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพ
The independent London-based think tank New Economics Foundation is pushing the implementation of a set of national wellbeing accounts that would tote up life satisfaction and personal development as well as issues such as trust and engagement. อิสระถังใหม่ London - based คิดเศรษฐศาสตร์มูลนิธิผลักดันการดำเนินการตั้งค่าบัญชีสุขภาพที่ดีของชาติสิริขึ้นที่จะพึงพอใจในชีวิตและการพัฒนาบุคลากรรวมทั้งประเด็นดังกล่าวเป็นความไว้วางใจและความผูกพัน The accounts would also include liabilities, such as stress and depression. บัญชีนอกจากนี้ยังจะรวมถึงหนี้สินเช่นความเครียดและภาวะซึมเศร้า The logistics won't be hard, says Hetan Shah of NEF, because much of the data is already captured by the government. โลจิสติกจะไม่ยาก, Hetan Shah ของ NEF, เพราะว่ามากของข้อมูลจะถูกบันทึกไว้แล้วโดยรัฐบาลกล่าวว่า In 2002, the Strategy Unit, an internal government think tank that reports to Prime Minister Tony Blair, conducted a seminar on life satisfaction and its public policy implications. ในปี 2002 กลยุทธ์หน่วยราชการภายในถังคิดว่ารายงานไปยังนายกรัฐมนตรีโทนี่แบลร์ได้ดำเนินการสัมมนาเรื่องความพึงพอใจในชีวิตและความหมายของนโยบายสาธารณะ Shah says Germany, Italy and France are also looking into the issue, one he predicts will become increasingly important as people continue to seek the good life.— With reporting by Helen Gibson/London Shah says เยอรมนีอิตาลีและฝรั่งเศสยังมองเป็นปัญหาหนึ่งที่เขาคาดการณ์จะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นเป็นคนต่อไปที่จะแสวงหาชีวิตที่ดี .- ด้วยการรายงานโดย Helen Gibson /

GNH ดัชนีความสุขมวลรวม
ทุกชาติในโลกไม่ว่ามหาอำนาจหรือชาติเล็กๆ ต่างเพิ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกที่กำเนิดมาจากสหรัฐฯ และล่าสุดต่างก็ต้องปวดหัวกับปัญหาปัญหาปัญหาภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงทั้ง Global Warming และ Climate Change ก็หนักข้อขึ้นอย่างรวดเร็วจนต้องจัดประชุมใหญ่กันที่ Copenhagen ตลอดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่คืบหน้าเพราะทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ตัวเงินยังไม่จบ แต่ละประเทศเองต่างก็พบปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรม ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนห่างขึ้น สวนทางกับเลข GDP ที่เป็นตัววัด ความเจริญซึ่งใช้กันมาตลอด ไม่เว้นแม้แต่ชาติยักษ์ใหญ่ร่ำรวยอย่างสหรัฐฯ ที่เคยมีวิกฤตที่มาจากการขาดธรรมาภิบาลอย่างกรณี Enron และโดนซ้ำจากวิกฤตจากเก็งกำไรตราสารหนี้ Subprime ต่ออีกจนปัจจุบันก็ยังไม่ฟื้นเต็มตัว สิบปีที่แล้ววิกฤตต้มยำกุ้งที่เริ่มจากประเทศไทยให้บทเรียนว่าการพัฒนาประเทศโดยเน้นตัวเลขเติบโตของ GDP (Gross Domestic Product) สูงๆ ที่เน้นการกู้เงินนั้นอันตรายเพียงใด ทั้งหมดนี้พาให้ทั่วโลกและในไทยเริ่มสนใจสร้างดัชนีใหม่ที่ต่างออกไป เช่น ดัชนีความสุขแห่งชาติ GNH (Gross National Happiness) หรือดัชนีความสุขมวลรวม “Gross National Happiness is more important than Gross National Product.” (ความสุขของประชาชนสำคัญกว่าผลผลิตรวมของประชาชาติ) เป็นประโยคแรกเกี่ยวกับ GNH ซึ่งมาจากพระเจ้า Jigme Wangchuck กษัตริย์ภูฏานองค์ก่อนนี้ที่กล่าวในวันเสด็จขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2515 และกลายเป็นหลักนโยบายระยะยาวที่พระองค์และคณะรัฐมนตรี ใช้ในการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโดยใช้หลักศาสนาพุทธเป็นที่ตั้ง แม้ตัวเลขรายได้ GDP ของภูฏานจะเป็นอันดับต่ำที่ 189 ของโลก จากทั้งหมด 222 ประเทศ คือราว 40,000 บาทต่อปีหรือ 4,300 บาทต่อเดือนเท่านั้นราวครึ่งหนึ่งของไทย แต่ความเป็นอยู่ของชาวภูฏานนั้น "พอเพียง" และสอดคล้องกับธรรมชาติ เช่นคนภูฏานทุกคนได้ที่ทำเกษตรประมาณ 10 ไร่ฟรีจากรัฐบาล และคนส่วนใหญ่อยู่กันเป็นครอบครัว ทุกคนช่วยกันทำมาหากิน ใครเข้าเมืองไปหางานทำ ไม่มีงานก็กลับไปทำนาได้เสมอ
ภูฏานเป็นประเทศเดียวในโลกที่วัดความเจริญของประเทศด้วยหลักการ GNH บ่งบอกจุดมุ่งหมายสร้างสมดุลระหว่างความเจริญด้านวัตถุและด้านจิตใจ และในปี 2541 รัฐบาลภูฏานก็ประกาศแผนพัฒนาประเทศอย่างเป็นทางการบนหลักการ “Four Pillars of Happiness” (สี่เสาหลักแห่งความสุข)

1.การพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable Economic Development)
2.การรักษาสภาพแวดล้อม (Conservation of the Environment)
3.การส่งเสริมวัฒนธรรมประจำชาติ (Promotion of National Culture)
4.ธรรมาภิบาลที่ดี (Good Governance)

นโยบายรูปธรรมที่เป็นตัวอย่างก็เช่นนโยบายจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ด้วยโควต้าคนและภาษีท่องเที่ยวรายวัน 200 $ ต่อหัว เพราะไม่ต้องการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวแห่กันเข้าไปทำลายความบริสุทธิ์ของป่าเขาและความเงียบสงบของวัด นอกจากนี้ยังมีนโยบายการปลูกป่าทดแทน ทำให้ยังมีป่ากว่า 70% ของประเทศแม้จะมีการตัดถนนอย่างต่อเนื่องมากว่า 30 ปี และยังมีตัวอย่างระดับท้องถิ่นเช่นมีหมู่บ้านหนึ่งเพิ่งเดินสายไฟฟ้าเข้าไปให้ทุกบ้าน ต่อมาพบว่านกกระเรียนบินไปติดสายไฟฟ้าตายจำนวนมาก ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันถอนเสาไฟฟ้า หันไปใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แทน ไม่เพียงแค่ประเทศเล็กๆ อย่างภูฏาน แต่วงวิชาการทั่วโลกกำลังสนใจเรื่องนี้ เช่นสถาบัน Innovest Strategic Value Advisors ซึ่งเป็นสถาบันการเงินข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่แถลงว่า “GNH เป็นแนวคิดที่สนับสนุนให้ระบบของมนุษย์ดีขึ้นด้วยการเลียนแบบระบบธรรมชาติที่มีความละเอียดซับซ้อนโดยอธิบายว่าทุกวันนี้บริษัทและประเทศทั้งหลายถูกกระตุ้นให้เติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายกับเซลล์มะเร็ง ซึ่งเติบโตด้วยการทำลายร่างกายที่ตัวเองอาศัยอยู่ การสัมมนานานาชาติเรื่อง GNH ที่ภูฏานในปี 2549 นั้นผู้เข้าร่วมประชุมมีแถลงการณ์ร่วมกันว่า ควรต้องวัดและให้ความสำคัญต่อตัวเลข GDP ต่อไป แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ไม่ไปทำให้ความสุขมวลรวม GNH ลดลง และความสุขขั้นพื้นฐานนั้นควรวัดระดับได้ เช่น วัดคุณภาพของโภชนาการ, การมีที่อยู่อาศัย, การศึกษา, สุขภาพ และชีวิตชุมชน และต้องสนับสนุนความรับผิดชอบต่อสังคมและธรรมาภิบาลที่ดีในการการดำเนินธุรกิจ
ส่วนในไทย ภาครัฐก็ได้ปรับให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ที่กำลังจะประกาศใช้ในอีก 2 ปีนั้นกำหนดชัดถึงการนำเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแกนหลักในการพัฒนาประเทศ โดยวัดทั้งประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ การพัฒนาอย่างยั่งยืน มิติการศึกษา และสุขภาพ โดยใช้ สสส. เป็นแกนหลักในการผลักดันดัชนีความสุขในการพัฒนาประเทศ ดันเข้าแผนพัฒนา ฉบับ11 ตั้งกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคมด้วย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็ได้แถลงไว้ในเรื่องนี้ว่าการวัดด้วย จีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ กับการวัดด้วยดัชนีความสุขนั้นต้องทำผสมผสานกันทั้งสองอย่าง และต้องวัด 2 ระดับ คือ 1 ระดับประเทศโดยจะดูว่ามีนโยบายพัฒนาด้านอะไรบ้าง เช่น เรื่องการศึกษา เรื่องสุขภาพ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการประกอบอาชีพ การทำมาหากิน เรื่องการกระจายรายได้ ส่วนระดับที่ 2 คือการวัดในระดับพื้นที่เพราะแต่ละจังหวัดปัญหาไม่เหมือนกัน
แนวคิดความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH ได้รับการพัฒนาในการพยายามที่กำหนดตัวบ่งชี้ คุณภาพชีวิต หรือความก้าวหน้าทางสังคมในอีก แบบองค์รวม จิตใจข้อกำหนดและกว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
The term was coined in 1972 by Bhutan 's former King Jigme Singye Wangchuck , who has opened Bhutan to the age of modernization, soon after the demise of his father, King Jigme Dorji Wangchuk . ระยะได้ชื่อว่าในปี 1972 โดย ภูฏาน ของอดีตกษัตริย์ Jigme Singye Wangchuck , ผู้ที่ได้เปิด ภูฏาน เพื่อให้ทันสมัยอายุ, เร็ว ๆ นี้หลังจากที่สมเด็จพระมรณกรรมของบิดาของเขา Jigme Dorji Wangchuk . He used the phrase to signal his commitment to building an economy that would serve Bhutan's unique culture based on Buddhist spiritual values. เขาใช้วลีกับสัญญาณความมุ่งมั่นของเขาที่จะสร้างในเศรษฐกิจที่จะให้บริการที่โดดเด่นของวัฒนธรรมภูฏานตาม พุทธ ค่าทางจิตวิญญาณ At first offered as a casual, offhand remark, the concept was taken seriously, as the Centre for Bhutan Studies , under the leadership of Karma Ura , developed a sophisticated survey instrument to measure the population's general level of well-being. ที่เสนอขายครั้งแรกเป็นแบบสบาย ๆ หมายเหตุเฉพาะหน้า,, แนวความคิดนี้ถูกถ่ายอย่างจริงจังเป็น ศูนย์สำหรับภูฏานศึกษา ภายใต้ของความเป็นผู้นำ Karma Ura , การสำรวจที่ใช้ในการพัฒนามีความซับซ้อนในการวัดระดับของประชากรทั่วไปของการเป็นอยู่ที่ดี The Canadian health epidemiologist Michael Pennock had a major role in the design of the instrument, and uses (what he calls) a "de-Bhutanized" version of the survey in his work in Victoria, British Columbia. ระบาดวิทยาสุขภาพแคนาดา Pennock ไมเคิล มีบทบาทสำคัญในการที่ใช้ในการออกแบบและการใช้ (สิ่งที่เขาเรียก) de - Bhutanized"รุ่น"ของการสำรวจในงานของเขาใน Victoria, British Columbia Ura and Pennock have also collaborated on the development of policy screening tools which can be used to examine the potential impacts of projects or programs on GNH. อุราและ Pennock ได้ยังร่วมมือในการพัฒนาเครื่องมือคัดกรองนโยบายซึ่งสามารถใช้ในการตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของโครงการหรือโปรแกรมที่อยู่บน GNH These tools are available on the grossnationalhappiness.com website. เครื่องมือเหล่านี้จะมีอยู่บนเว็บไซต์ grossnationalhappiness.com เช่นเดียวกับตัวชี้วัดทางจิตวิทยาและสังคมหลาย GNH จะค่อนข้างง่ายต่อการรัฐกว่ากำหนดด้วยความแม่นยำทางคณิตศาสตร์ Nonetheless, it serves as a unifying vision for Bhutan's five-year planning process and all the derived planning documents that guide the economic and development plans of the country. กระนั้นก็ทำหน้าที่เป็นวิสัยทัศน์รวมกันสำหรับขั้นตอนการวางแผนของภูฏานห้าปีและเอกสารทั้งหมดที่ได้วางแผนที่คู่มือแผนและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ Proposed policies in Bhutan must pass a GNH review based on a GNH impact statement that is similar in nature to the Environmental Impact Statement required for development in the US นโยบายที่เสนอในภูฏานจะต้องผ่านการตรวจสอบ GNH ตามคำสั่ง GNH ผลกระทบที่มีลักษณะโดยธรรมชาติที่จะ ชี้แจงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาในสหรัฐอเมริกา
The Bhutanese grounding in Buddhist ideals suggests that beneficial development of human society takes place when material and spiritual development occur side by side to complement and reinforce each other. ภูฏานดินในอุดมคติทางพุทธศาสนาแสดงให้เห็นว่าการพัฒนาประโยชน์ของสังคมมนุษย์จะเกิดขึ้นเมื่อวัสดุและ จิตวิญญาณ การพัฒนาเกิดขึ้นเคียงข้างเพื่อเติมเต็มและเสริมสร้างกันและกัน The four pillars of GNH are the promotion of sustainable development , preservation and promotion of cultural values , conservation of the natural environment , and establishment of good governance . สี่เสาหลักของ GNH ที่ของการส่งเสริม การพัฒนาที่ยั่งยืน การเก็บรักษาและการส่งเสริม คุณค่าทางวัฒนธรรม การอนุรักษ์ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสถานประกอบการของ ภิบาล . At this level of generality, the concept of GNH is transcultural—a nation need not be Buddhist in order to value sustainable development, cultural integrity, ecosystem conservation, and good governance. เมื่ออยู่ที่ระดับของความจริงทั่วๆไปนี้แนวคิดของ GNH transcultural ชาติที่เป็นไม่จำเป็นต้องเป็นชาวพุทธเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนค่าความสมบูรณ์ทางวัฒนธรรม, การอนุรักษ์ระบบนิเวศและการกำกับดูแลที่ดี Through collaboration with an international group of scholars and empirical researchers the Centre for Bhutan Studies further defined these four pillars with greater specificity into eight general contributors to happiness- physical, mental and spiritual health; time-balance; social and community vitality; cultural vitality; education; living standards; good governance; and ecological vitality. โดยความร่วมมือกับกลุ่มประเทศของนักวิชาการและนักวิจัยเชิงประจักษ์ศูนย์การศึกษาต่อประเทศภูฏานกำหนดสี่เสาหลักเหล่านี้มีความจำเพาะมากขึ้นในแปดผู้ร่วมให้ข้อมูลทั่วไปเพื่อความสุข - ร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณสุขภาพเวลาสมดุล; พลังทางสังคมและชุมชนพลังทางวัฒนธรรม การศึกษา; มาตรฐานการดำรงชีวิต; การกำกับดูแลที่ดีและพลังทางนิเวศวิทยา Although the GNH framework reflects its Buddhist origins, it is solidly based upon the empirical research literature of happiness, positive psychology and wellbeing. ถึงแม้ว่ากรอบ GNH

 [ edit ] Conferencesการประชุม In 2009, the 5th International Conference was held at Foz do Iguaçu , Brazil, with more than 800 participants.ในปี 2009 การประชุมนานาชาติครั้งที่ 5 Foz ทำ Iguacu , Brazil, มากกว่า 800 ผู้เข้าร่วม The conference was organised by Future Vision Ecological Institute and Itaipu Bi-national Hydroelectric Facility, in collaboration with the Centre for Bhutan Studies. การประชุมจัดขึ้นโดยสถาบันอนาคตวิสัยทัศน์เชิงนิเวศน์และ Itaipu Bi - ชาติพลังน้ำสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันกับศูนย์การศึกษาภูฏาน The growing interest in GNH within Brazil has resulted from the work of Dr. Susan Andrews at the Instituto Visão Futuro which sponsored a series of events in São Paulo and Campinas in October 2008. ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นใน GNH ในบราซิลเป็นผลมาจากการทำงานของ ดร. ซูซานแอนดรูที่ Instituto Visão Futuro ซึ่งสนับสนุนชุดของกิจกรรมในเซาเปาโลและ Campinas ในเดือนตุลาคม 2008 Speakers included Karma Ura from Bhutan and Michael Pennock from Canada. ลำโพงรวม Karma Ura จากภูฏานและไมเคิล Pennock จากประเทศแคนาดา A summary of the 5th Annual International Conference, along with MP3 audio recordings are available at http://www.grossnationalhappiness.com/articlesongnh/gnh5.aspx สรุปของการประชุมนานาชาติครั้งที่ 5 ประจำปีพร้อมกับการบันทึกเสียง MP3 ได้ที่The 4th International Conference on Gross National Happiness was held in Bhutan with a focus on Practice and Measurement. 4 การประชุมหารือและความสุขมวลรวมประชาชาติจัดขึ้นในภูฏานด้วยการเน้นการปฏิบัติและการวัด Results of the Bhutanese survey were presented and a number of international contributors discussed different approaches and challenges to the measurement and application of the GNH framework. ผลการสำรวจภูฏานนำเสนอและจำนวนของผู้ร่วมให้ข้อมูลระหว่างประเทศกล่าวถึงวิธีการที่แตกต่างกันและความท้าทายต่อการวัดและการประยุกต์ใช้กรอบ GNH Conference proceedings are available at http://www.bhutanstudies.org.bt/main/gnh4.php ดำเนินการประชุมซึ่งที่ The 3rd International Conference on Gross National Happiness Towards Global Transformation: WORLD VIEWS MAKE A DIFFERENCE offered an opportunity to articulate Asian world views towards transformation in a 'message to the world'.3 การประชุมหารือและมวลรวมประชาชาติต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกมีความสุข : โลกทัศน์สร้างความแตกต่างที่นำเสนอโอกาสที่จะมองโลกในเอเชียที่เป็นข้อต่อการเปลี่ยนแปลงใน'ข้อความไปยังโลก' It took place in Nong Khai and Bangkok, Thailand between 22 and 28 November 2007. มันเกิดขึ้นที่หนองคายและกรุงเทพฯ, ประเทศไทยระหว่าง 22 และ 28 พฤศจิกายน 2007 Implying the transition from a natural to modernized state, the 3rd International Conference on Gross National Happiness (GNH 3) took place in two locations: the first three days took place in rural north-eastern province of Nong Khai and the last three days in the urban campus of Chulalongkorn University in central Bangkok, Thailand.implying การเปลี่ยนผ่านจากธรรมชาติไปยังรัฐที่ทันสมัย, ที่ 3 การประชุมหารือและความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH 3) เกิดขึ้นในสองสถานที่ : สามวันแรกเกิดขึ้นในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือชนบทของหนองคายและล่าสุดในสามวัน วิทยาเขตเมืองแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ, ประเทศไทย The organizers planned all activities so that participants were able to explore a large variety of venues, presentation and discussion formats and draw on the great variety and talents of the entire group of 800 participants who registered. จัดกิจกรรมตามแผนทั้งหมดเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจความหลากหลายของสถานที่จัดงานนำเสนอและรูปแบบการอภิปรายและการวาดภาพบนหลากหลายมากและความสามารถพิเศษของกลุ่มทั้งหมดของ 800 ผู้เข้าร่วมที่ลงทะเบียน Main co-organizers were the Sathirakoses Nagapradipa Foundation (Thailand), Centre for Bhutan Studies , while local NGOs, progressive business group Social Venture Network and the government of Thailand in particular The Ministry of Social Development and Human Security, Thailand, have formed a support network together with research agencies and other government departments like the Thai Health Promotion Foundation.หลักร่วมจัดงาน - มี Sathirakoses Nagapradipa Foundation (ประเทศไทย), ศูนย์การศึกษาภูฏาน ในขณะที่องค์กรพัฒนาเอกชนท้องถิ่นก้าวหน้ากลุ่มธุรกิจ ค้าเครือข่ายทางสังคม และการปกครองของประเทศไทยโดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประเทศไทยได้เกิดการสนับสนุน เครือข่ายร่วมกันกับหน่วยงานวิจัยและภาครัฐอื่น ๆ เช่นมูลนิธิส่งเสริมสุขภาพไทย

"Rethinking Development: Local Pathways to Global Wellbeing", the Second International Conference on Gross National Happiness was held in Antigonish, Nova Scotia June 20–24, 2005, co-hosted by Genuine Progress Index Atlantic (proceedings online); the Coady International Institute; Shambhala ; the Centre for Bhutan Studies ; the Province of Nova Scotia ; the Gorsebrook Research Institute at Saint Mary's University; and the University of New Brunswick . "ทบทวนการพัฒนาท้องถิ่นเพื่อ Global Pathways อยู่ดีมีสุข", Second การประชุมหารือและความสุขมวลรวมประชาชาติจัดขึ้นใน Antigonish, โนวาสโกเทีย มิถุนายน 20-24, 2005, ร่วมเป็นเจ้าภาพ Atlantic ดัชนีความคืบหน้าของแท้ (ออนไลน์ดำเนินคดี); Coady สถาบันระหว่างประเทศ ; Shambhala ; ศูนย์การศึกษาภูฏาน ; โนวาสโกเทียจังหวัด ; สถาบันวิจัยเพื่อการ Gorsebrook ที่ของ Saint Mary มหาวิทยาลัยและ มหาวิทยาลัยของ Brunswick New .
The second regional Conference took place November 8–11, 2006 at Meiji Gakuin University in Yokohama. การประชุมระดับภูมิภาคที่สองเอาสถานที่ 08-11 พฤศจิกายน 2006 ที่ มหาวิทยาลัยเมจิ Gakuin ในโยโกฮามา The conference examined Haida successes to apply non western economic and social modalities. การประชุมการตรวจสอบ Haida ความสำเร็จเพื่อใช้สังคม modalities ตะวันตกทางเศรษฐกิจและไม่ใช่

[ edit ] External studiesการศึกษาภายนอก In a widely cited study, "A Global Projection of Subjective Well-being: A Challenge to Positive Psychology?" อ้างถึงอย่างกว้างขวางในการศึกษา,"Projection Global ของอัตนัยเป็นอยู่ที่ดี : ความท้าทายในเชิงบวกจิตวิทยา" by Adrian G. White of the University of Leicester in 2007, Bhutan ranked 8th out of 178 countries in Subjective Well-Being, a metric that has been used by many psychologists since 1997. [ 8 ] In fact, it is the only country in the top 20 "happiest" countries that has a very low GDP. โดยเอเดรียจีสีขาวของ มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในปี 2007 ภูฏานอันดับที่ 8 ของ 178 ประเทศในวิสัยดีเป็นอยู่ตัวชี้วัดที่มีการใช้โดยนักจิตวิทยาหลายตั้งแต่ปี 1997 [8] ในความเป็นจริงมันเป็นเพียงประเทศเดียวใน ด้านบน 20 ประเทศ"ความสุข"ที่มี GDP ต่ำมาก National happiness is also sometimes classified under empirically studied "National Happyism;" and psychologists, Drs.ความสุขแห่งชาติเป็นบางครั้งสามารถจัดอยู่ภายใต้การศึกษาเชิงประจักษ์"National Happyism;"และนักจิตวิทยา, DRS Ed Diener and Robert Biswas-Diener, have researched and analyzed what could be described as technological elements and characteristics of happiness for both individuals and societies. Ed Diener และโรเบิร์ต Biswas - Diener, ได้ค้นคว้าศึกษาและวิเคราะห์สิ่งที่อาจจะอธิบายองค์ประกอบของเทคโนโลยีและลักษณะของความสุขสำหรับบุคคลและสังคม

[ edit ] Criticismวิจารณ์ Critics allege that because GNH depends on a series of subjective judgments about well-being, governments may be able to define GNH in a way that suits their interests. นักวิจารณ์กล่าวหาว่าเพราะ GNH ขึ้นอยู่กับของชุด อัตนัย คำตัดสินเกี่ยวกับการเป็นอยู่ที่ดีรัฐบาลอาจจะสามารถกำหนด GNH ในทางของพวกเขาที่เหมาะสมกับความสนใจ In the case of Bhutan, for instance, they say that the government expelled about one hundred thousand people and stripped them of their Bhutanese citizenship on the grounds that the deportees were ethnic Nepalese who had settled in the country illegally, [ 9 ] [ 10 ] though Bhutan's policies in this regard have no direct or obvious relevance to its use of GNH as an indicator guiding policy. ในภูฏานกรณีตัวอย่างเช่นพวกเขากล่าวว่ารัฐบาลขับประมาณหนึ่งแสนคนและปล้นของพวกเขาเป็นพลเมืองภูฏานของพวกเขาในบริเวณที่มี deportees เนปาลกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีการตัดสินในประเทศอย่างผิดกฎหมาย, [9] [10] แม้ว่านโยบายของภูฏานในเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงหรือที่เห็นได้ชัดกับการใช้ GNH เป็นเครื่องชี้วัดของการนำนโยบาย Other countries, notably Brazil, Italy, and parts of Canada, are exploring use of measurements derived from Bhutan's GNH as their primary indicator of well-being. ประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบราซิล, อิตาลี, และบางส่วนของแคนาดามีการสำรวจการใช้การวัดที่ได้จาก GNH ของภูฏานเป็นตัวชี้วัดหลักของการเป็นอยู่ที่ดี Critics say that international comparison of well-being will be difficult on this model; proponents maintain that each country can define its own measure of GNH as it chooses, and that comparisons over time between nations will have validity. นักวิจารณ์กล่าวว่าการเปรียบเทียบระหว่างประเทศของการเป็นอยู่ที่ดีจะเป็นเรื่องยากในรูปแบบนี้รักษาผู้เสนอว่าแต่ละประเทศสามารถกำหนดมาตรการของตัวเองของ GNH ตามที่เลือกและที่เปรียบเทียบในช่วงเวลาระหว่างประเทศจะมีความถูกต้อง GDP provides a convenient, international scale; but (proponents of GNH say) to continue to use GDP for this reason in the face of its known flaws is to allow ease of measurement to define what it is we measure and value, an approach that is logically indefensible. GDP ให้ความสะดวกในระดับสากล แต่ (GNH กล่าวของผู้เสนอ) เพื่อดำเนินการต่อ GDP ที่จะใช้เหตุผลนี้ในหน้าของข้อบกพร่องที่รู้จักกันมันก็เพื่อให้ความสะดวกในการวัดเพื่อกำหนดสิ่งที่เราวัดและค่าวิธีการที่เป็น แก้ตัวไม่ได้มีเหตุผล Research demonstrates that markers of social and individual well-being are remarkably transcultural: people generally report greater subjective life satisfaction if they have strong and frequent social ties, live in healthy ecosystems, experience good governance, etc. Nevertheless, it remains true that reliance on national measures of GNH would render international comparisons of relative well-being more problematic, since there is not and is not likely ever to be a common scale as "portable" as GDP has been. [ 6 ] [ 8 ] การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเครื่องหมายของสังคมและบุคคลเป็นอยู่ที่ดีเป็นอย่างน่าทึ่ง transcultural : ผู้คนทั่วไปรายงานพึงพอใจในชีวิตมากขึ้นอัตนัยหากพวกเขามีแรงและบ่อยครั้งความสัมพันธ์ทางสังคมอาศัยอยู่ในระบบนิเวศมีสุขภาพดี, มีประสบการณ์การกำกับดูแลที่ดีและอื่น ๆ , มันก็ยังเป็นจริงความเชื่อมั่นว่าในวันที่ มาตรการระดับชาติของ GNH จะทำให้การเปรียบเทียบระหว่างประเทศของความเป็นอยู่ที่ดีมีปัญหามากขึ้นเนื่องจากมีไม่ได้และไม่น่าจะเคยเป็นระดับร่วมกันเป็น"แบบพกพา"เป็น GDP ได้รับการ Alternative indicators of emotion as an analog to economic progress have also been supported by a number of NGOs such as the UK's New Economics Foundation , and are employed in some governments notably in Europe and Canada. [ citation needed ] .ตัวชี้วัดทางเลือกของอารมณ์เป็นความคืบหน้าอนาล็อกเศรษฐกิจยังได้รับการสนับสนุนจากของจำนวน องค์กรพัฒนาเอกชน เช่นสหราชอาณาจักรของ มูลนิธิเศรษฐศาสตร์ใหม่ และมีงานในรัฐบาลบางส่วนที่เด่นชัดในยุโรปและแคนาดาThe Gallup poll system also collects data on wellbeing on a national and international scale. [ 11 ] แบบสำรวจความคิดเห็น Gallup นอกจากนี้ระบบจะเก็บข้อมูลสุขภาพที่ดีในระดับชาติและนานาชาติ

               A variety of measures of national income and output are used in economics to estimate total economic activity in a country or region, including gross domestic product ( GDP ), gross national product ( GNP ), and net national income ( NNI ).                      ความหลากหลายของมาตรการระดับชาติของรายได้และมีการใช้ใน ทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อประเมินกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศหรือภูมิภาครวมทั้ง ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ( GNP ) และ รายได้ประชาชาติสุทธิ (NNI) All are specially concerned with counting the total amount of goods and services produced within some "boundary". ทั้งหมดมีความกังวลเป็นพิเศษกับการนับจำนวนรวมของสินค้าและบริการที่ผลิตภายในบางส่วน"ขอบเขต" The boundary may be defined geographically, or by citizenship; and limits on the type of activity also form part of the conceptual boundary; for instance, these measures are for the most part limited to counting goods and services that are exchanged for money: production not for sale but for barter, for one's own personal use, or for one's family, is largely left out of these measures, although some attempts are made to include some of those kinds of production by imputing monetary values to them. ขอบเขตอาจมีการกำหนดไว้ในทางภูมิศาสตร์หรือโดยสัญชาติและขีด จำกัด กับชนิดของกิจกรรมที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตความคิด; ตัวอย่างเช่นมาตรการเหล่านี้ส่วนใหญ่ จำกัด อยู่ที่การนับสินค้าและบริการที่มีการแลกเปลี่ยนสำหรับเงิน : การผลิตไม่ ขาย แต่สำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าสำหรับใช้ส่วนตัวของตัวเองเป็นหนึ่งหรือเพื่อของครอบครัวหนึ่งอาจเป็นส่วนใหญ่ออกทางด้านซ้ายของมาตรการเหล่านี้แม้จะพยายามจะทำบางอย่างเพื่อรวมบางชนิดที่ผลิตโดย imputing ค่าทางการเงินแก่พวกเขา Mr Ian Davies defines development as 'Simply how happy and free the citizens of that country feel.' [ 1 ] นายเอียนเดวี่ส์กำหนดพัฒนาเป็น'เพียงแค่ความสุขและฟรีพลเมืองของประเทศนั้นรู้สึก.' [1]

 [ edit ] Market valueค่าตลาด Main article: Market value ดูบทความหลักที่ มูลค่าหุ้นตามราคาตลาด In order to count a good or service it is necessary to assign some value to it. เพื่อนับจำนวนสินค้าหรือบริการมีความจำเป็นต้องกำหนดค่าบางอย่างไป The value that the measures of national income and output assign to a good or service is its market value – the price it fetches when bought or sold. ค่าที่มาตรการของรายได้ประชาชาติและผลผลิตกำหนดให้บริการที่ดีหรือเป็นมูลค่าตลาดราคามันจะเรียกเมื่อซื้อหรือขาย The actual usefulness of a product (its use-value) is not measured – assuming the use-value to be any different from its market value. ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจริงของผลิตภัณฑ์ (มูลค่าของการใช้งาน) ไม่ได้วัด  สมมติว่าค่าใช้ใด ๆ ที่จะแตกต่างจากมูลค่าตลาด Three strategies have been used to obtain the market values of all the goods and services produced: the product (or output) method, the expenditure method, and the income method. สามมีการใช้กลยุทธ์เพื่อให้ได้ค่าการตลาดของสินค้าและบริการที่ผลิตสินค้าวิธี (หรือส่งออก), วิธีการใช้จ่ายและวิธีรายได้ The product method looks at the economy on an industry-by-industry basis. สินค้าวิธีการดูที่ระบบเศรษฐกิจบนพื้นฐานของอุตสาหกรรมโดยอุตสาหกรรม The total output of the economy is the sum of the outputs of every industry. ผลผลิตรวมของเศรษฐกิจเป็นผลรวมของผลของทุกภาคอุตสาหกรรม However, since an output of one industry may be used by another industry and become part of the output of that second industry, to avoid counting the item twice we use, not the value output by each industry, but the value-added; that is, the difference between the value of what it puts out and what it takes in. The total value produced by the economy is the sum of the values-added by every industry. อย่างไรก็ตามเนื่องจากการส่งออกของอุตสาหกรรมหนึ่งอาจจะถูกใช้โดยอุตสาหกรรมอื่นและกลายเป็นส่วนหนึ่งของการส่งออกของอุตสาหกรรมที่สองที่เพื่อหลีกเลี่ยงการนับจำนวนรายการที่สองครั้งที่เราใช้ไม่ได้ออกค่าโดยแต่ละอุตสาหกรรม แต่มีมูลค่าเพิ่ม; ที่ , ความแตกต่างระหว่างมูลค่าของสิ่งที่มันทำให้ออกมาและสิ่งที่จะเข้ามูลค่ารวมที่ผลิตโดยเศรษฐกิจเป็นผลรวมของค่าเพิ่มโดยทุกภาคอุตสาหกรรม The expenditure method is based on the idea that all products are bought by somebody or some organisation. วิธีการใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่าสินค้าทั้งหมดจะซื้อจากใครบางคนหรือบางองค์กร Therefore we sum up the total amount of money people and organisations spend in buying things. ดังนั้นเราจึงสรุปยอดรวมของผู้คนและองค์กรการใช้จ่ายเงินในการซื้อสิ่ง This amount must equal the value of everything produced. เงินจำนวนนี้จะต้องเท่ากับค่าของทุกอย่างที่ผลิต Usually expenditures by private individuals, expenditures by businesses, and expenditures by government are calculated separately and then summed to give the total expenditure. ค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปโดยเอกชน, ค่าใช้จ่ายด้วยธุรกิจและค่าใช้จ่ายโดยรัฐบาลจะคำนวณแยกกันแล้วสรุปที่จะให้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด Also, a correction term must be introduced to account for imports and exports outside the boundary. นอกจากนี้ระยะการแก้ไขจะต้องได้รับการแนะนำให้กับบัญชีเพื่อการนำเข้าและส่งออกนอกขอบเขต The income method works by summing the incomes of all producers within the boundary. วิธีการทำงานโดยรายได้ข้อสรุปรายได้ของผู้ผลิตทั้งหมดภายในขอบเขต Since what they are paid is just the market value of their product, their total income must be the total value of the product. เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาจะได้รับเงินเป็นเพียงมูลค่าตลาดของผลิตภัณฑ์ของตนมีรายได้รวมทั้งหมดของพวกเขาจะต้องมีมูลค่ารวมของผลิตภัณฑ์ Wages, proprieter's incomes, and corporate profits are the major subdivisions of income. ค่าจ้างค่า proprieter ของรายได้และผลกำไรของ บริษัท จะแบ่งรายได้ที่สำคัญของ

[ edit ] The output approachวิธีการส่งออก วิธีการส่งออกมุ่งเน้นในการThe output approach focuses on finding the total output of a nation by directly finding the total value of all goods and services a nation produces.หาผลรวมของชาติโดยตรงโดยการหามูลค่ารวมของสินค้าและบริการทั้งหมดของประเทศผู้ผลิตBecause of the complication of the multiple stages in the production of a good or service, only the final value of a good or service is included in total output.เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนของหลายขั้นตอนในการผลิตสินค้าหรือบริการเพียงค่าสุดท้ายของการบริการที่ดีหรือจะรวมอยู่ในการส่งออกรวม This avoids an issue often called ' double counting ', wherein the total value of a good is included several times in national output, by counting it repeatedly in several stages of production. หลีกเลี่ยงปัญหานี้มักจะเรียกว่า' คู่นับ 'ที่ซึ่งมูลค่ารวมของดีมีอยู่หลายครั้งในการส่งออกแห่งชาติโดยการนับซ้ำ ๆ ในหลายขั้นตอนของการผลิต In the example of meat production, the value of the good from the farm may be $10, then $30 from the butchers, and then $60 from the supermarket. ในตัวอย่างของการผลิตเนื้อสัตว์ค่าของดีจากฟาร์มอาจจะ $ 10 แล้ว 30 $ จากการขายเนื้อแล้ว 60 $ จากซูเปอร์มาร์เก็ต The value that should be included in final national output should be $60, not the sum of all those numbers, $100. ค่าที่ควรจะรวมอยู่ในการส่งออกแห่งชาติขั้นสุดท้ายควรจะ $ 60 ไม่ได้ผลรวมของตัวเลขทั้งหมดที่, $ 100 The values added at each stage of production over the previous stage are respectively $10, $20, and $30. เพิ่มค่า ที่ผลิตแต่ละขั้นตอนของการผ่านขั้นตอนตามลำดับก่อนหน้านี้มี $ 10, $ 20 และ $ 30 Their sum gives an alternative way of calculating the value of final output. ผลรวมของพวกเขาให้ทางเลือกของการคำนวณมูลค่าของผลผลิตขั้นสุดท้าย Formulae: Formulae : GDP(gross domestic product) at market price = value of output in an economy in a particular year - intermediate consumptionGDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ตามราคาตลาด = มูลค่าของผลผลิตในระบบเศรษฐกิจในปีหนึ่ง ๆ -- ใช้จ่ายขั้นกลาง

NNP at factor cost = GDP at market price - depreciation + NFIA (net factor income from abroad) - net indirect taxes [ 3 ] NNP มีค่าใช้จ่ายปัจจัย = GDP ณ ราคาตลาด -- ค่าเสื่อมราคา + NFIA (รายได้สุทธิจากต่างประเทศ) -- ภาษีทางอ้อมสุทธิ [3]

[ edit ] The income approach วิธีรายได้ The income approach equates the total output of a nation to the total factor income received by residents of the nation. วิธีรายได้เท่ากับผลผลิตรวมของประเทศเพื่อรายได้ทั้งหมดที่ได้รับโดยอาศัยอยู่ในประเทศ The main types of factor income are: ประเภทหลักของรายได้คือ

  • Employee compensation (= wages + cost of fringe benefits, including unemployment, health, and retirement benefits); ค่าตอบแทนพนักงาน (= ค่าจ้าง + ค่าใช้จ่ายของผลประโยชน์รวมทั้งการว่างงาน, สุขภาพและสิทธิประโยชน์การเกษียณอายุ);
  • Interest received net of interest paid; ดอกเบี้ยรับสุทธิของดอกเบี้ยที่จ่าย;
  • Rental income (mainly for the use of real estate) net of expenses of landlords; รายได้ค่าเช่า (ส่วนใหญ่สำหรับการใช้งานของอสังหาริมทรัพย์) สุทธิจากค่าใช้จ่ายของเจ้าของบ้าน;
  • Royalties paid for the use of intellectual property and extractable natural resources. ค่าสิทธิที่จ่ายสำหรับการใช้งานของทรัพย์สินทางปัญญาและทรัพยากรธรรมชาติสกัด
All remaining value added generated by firms is called the residual or profit . ทั้งหมดที่เหลืออยู่เพิ่มมูลค่าสร้างโดย บริษัท จะเรียกว่าที่เหลือหรือ กำไร . If a firm has stockholders, they own the residual, some of which they receive as dividends . แต่หาก บริษัท มีการถือหุ้นโดยพวกเขาเองที่เหลือบางส่วนที่พวกเขาได้รับเป็น เงินปันผล . Profit includes the income of the entrepreneur - the businessman who combines factor inputs to produce a good or service. กำไรรวมถึงรายได้ของ ผู้ประกอบการ -- บริการนักธุรกิจผู้รวมปัจจัยการผลิตปัจจัยการผลิตที่ดีหรือ
Formulae: Formulae : NDP at factor cost = Compensation of employees + Net interest + Rental & royalty income + Profit of incorporated and unincorporated firms + Income from self-employment. ค่าใช้จ่ายปัจจัย NDP = ค่าตอบแทนของพนักงาน + ดอกเบี้ยสุทธิ + รายได้ค่าเช่าและค่าลิขสิทธิ์ + กำไรของ บริษัท จดทะเบียนและการประกอบการ + รายได้จากการจ้างงานตนเองNational income = NDP at factor cost + NFIA (net factor income from abroad) - Depreciation.แห่งชาติ = NDP รายได้ค่าใช้จ่ายปัจจัย + NFIA (รายได้สุทธิจากต่างประเทศ) -- ค่าเสื่อมราคา

[ edit ] The expenditure approachวิธีการค่าใช้จ่าย The expenditure approach is basically an output accounting method. วิธีการใช้จ่ายโดยทั่วไปวิธีการบันทึกบัญชีส่งออก It focuses on finding the total output of a nation by finding the total amount of money spent. โดยเน้นในการหาผลรวมของประเทศโดยการหาปริมาณรวมของการใช้จ่ายเงิน This is acceptable, because like income, the total value of all goods is equal to the total amount of money spent on goods. นี้เป็นที่ยอมรับได้เพราะชอบรายได้มูลค่ารวมของสินค้าทั้งหมดที่มีค่าเท่ากับยอดรวมของเงินที่ใช้จ่ายในสินค้า The basic formula for domestic output combines all the different areas in which money is spent within the region, and then combining them to find the total output. สูตรพื้นฐานสำหรับการส่งออกในประเทศรวมทั้งหมดในพื้นที่ต่างๆซึ่งเงินที่ใช้ภายในภูมิภาคแล้วรวมพวกเขาเพื่อค้นหาผลลัพธ์ทั้งหมด

GDP = C + I + G + ( X - M ) GDP = C + I + G + (X -- M)
Where: สถานที่ :
C = household consumption expenditures / personal consumption expenditures C = ค่าใช้จ่ายการบริโภคของใช้ในครัวเรือน / ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล
I =
gross private domestic investment I = มวลรวมในประเทศการลงทุนภาคเอกชน
G = government consumption and gross investment expenditures G = การบริโภคภาครัฐและค่าใช้จ่ายการลงทุนรวม
X = gross exports of goods and services X = การส่งออกรวมของสินค้าและบริการ
M = gross imports of goods and services M = มูลค่าการนำเข้ารวมของสินค้าและบริการ

Note: ( X - M ) is often written as X N , which stands for "net exports" หมายเหตุ : (X -- M) จะถูกเขียนมักจะเป็น X N ซึ่งย่อมาจาก"การส่งออกสุทธิ"